เมืองไทยไม่น่าเลย!: ประชาธิปไตยที่แท้เป็นของใคร

วันอังคาร, ธันวาคม 10, 2556

ประชาธิปไตยที่แท้เป็นของใคร

คุณคิดเห็นอย่างไรครับ กับการเมืองในตอนนี้
คุณอยู่ข้างไหนครับ กับการเมืองในตอนนี้
คุณไม่รู้หรือครับว่า อีกข้างมันชั่วช้าเลวทรามขนาดไหน
เอ...คุณไม่เคยดูคลิปเหรอครับว่าเขาพูดอย่างไรกันไว้บ้าง
แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือครับว่า ข้างที่คุณเลือกนั้นน่ะเขาคิดจะทำอะไรที่ไม่ดีไม่ดีอยู่
เอ่อ ที่จริงมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกนะครับ มันก็เห็นชัดเจนดีอยู่
ลองมองในมุมนี้ดูสิครับว่าถ้าปล่อยไปอย่างนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น

เห็นพัฒนาการในการสนทนามั้ยครับ
ใครก็ตามที่ตกเข้าไปในวงพูดคุยเรื่องการเมืองในห้วงเวลานี้ แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญว่า คุณกะคู่สนทนาคุยกันไปแบบอะไลเม้นมันขัดแย้งกัน
ปรากฏการณ์โน้มน้าวจะเกิดขึ้นในทันที เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะหันมาคิดแบบเดียวกับตัวเอง จนถึงขั้นที่ว่าหากไม่คิดแบบเดียวกันขึ้นมาอาจจะแตกหักกันได้

อืม ตกลงว่าคุณ(มึง)จะไม่ทำอะไรเลย จะอยู่เฉยๆว่างั้น
ถ้าไม่ออกไปแสดงพลังแล้วมึง เอ๊ย คุณ จะบอกลูกหลานว่าไง
ขืนปล่อยไว้่อย่างนี้ประเทศชาติชิบมิสซิ่งแน่นอน คุณ เอ๊ย มึง เอ๊ย คุณจะนั่งดูมันชิบหายไปต่อหน้าต่อตาเหรอ
เพราะมีคนอย่างคุณ เอ๊ย มึง มากๆนี่แหละ พวกมันถึงได้ทำตามอำเภอใจ
ไอ้เหี้ย.....มันเลวแค่ไหน คุณ เอ๊ย มึงยังเข้าข้างอยู่ได้

สนทนาการมันจะเดเวล๊อปเม้นขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ โดยที่ถ้าลองทำใจเป็นกลางๆ บทพูดนี้อาจเป็นได้ทั้งของคนเสื้อฟ้า เหลือง แดง ม่วง ชมพู แสด ได้ทั้งนั้น
ทำไมความคิดเราต้องเป็นใหญ่กว่าความคิดของอีกคนหนึ่ง
ทำไมคนที่ไปนอนในราชมังคลา หรือ เดินเป่านกหวีดตามท้องถนน ถึงได้หลงไปว่าตัวจะรู้ดีหรือยิ่งใหญ่ เท่ สมาร์ท เพื่อชาติ ไปกว่าคนที่อดทนดูเหตุการณ์อยู่ที่บ้าน
ทำไมคนที่อดทนอยู่ที่บ้านถึงได้บอกว่าเมื่อไหร่มันจะเลิกกันเสียที

นี่เพราะเรายังไม่ได้ยืนอย่างมั่นคงอยู่กับคำว่า ประชาธิปไตย อย่างแท้จริง

ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตย คุณก็จะเคารพในความคิดของคนอื่น เพราะในเมื่อคุณยังอยากมีความคิดเป็นอิสระ ใยต้องไปพันธนาการความคิดคนอื่น
ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตย คุณก็จะเคารพในความเห็นของคนส่วนมาก โดยที่ไม่ได้ดูแคลนความคิดของพวกเขาว่าต่ำชั้นกว่า ในขณะเดียวกันกู็ูไม่จำเป็นต้องคล้อยตาม หรือเห็นว่าตนเองด้อยกว่า ดังนั้นคุณก็จะพยายามให้คนอื่นได้เห็นความคิดของคุณ แต่ถ้าคุณพยายามแล้วเขาไม่คิดอย่างคุณ คุณก็รู้ว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว โดยไม่พักต้องสร้างมาตราฐานความดีงามเพื่อกดให้คนที่เห็นต่างกลายเป็นคนที่ด้อยคุณธรรมกว่าคุณ
ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตยคุณจะยินดีที่เห็นฝ่ายตรงข้ามแสดงพลัง โดยไม่ไปเกลียดชังว่าพวกมันจะรวมตัวเป่านกหวีดหาพระแสงอะไร เพราะเมื่อคุณยังอยากแสดงพลังได้โดยเสรีและปลอดภัย คุณก็ย่อมจะยินดีต่อเสรีภาพในการแสดงพลังของอีกฝ่ายเช่นกัน เพราะในยามที่คุณเป็นฝ่ายชนะ คุณจะสามารถพูดได้ว่า คุณได้ให้โอกาสอีกฝ่ายอย่างเต็มที่แล้ว ในยามที่คุณเป็นฝ่ายแพ้ คุณก็จะได้ยินดีที่มีโอกาสเรียกร้องผลักดันและชักชวนอย่างเต็มกำลัง
ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตย คุณจะไม่เรียกร้องให้ใครคนใดคนหนึ่ง ยกเลิก งด ออกไป จากการมีส่วนร่วมทางการเมือง เพราะคุณจะรู้ว่า ประชาธิปไตยนั้นไม่ใช่ของคุณ และไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือไม่ใช่ของคนหลายๆคนที่จะบอกว่า ใครหนึ่งคนนั้นไม่มีสิทธิทางการเมือง ตราบเท่าที่เขายังไม่ถูกตัดสินให้ขาดจากสิทธินั้นเนื่องจากการกระทำที่ขัดต่อกฏเกณฑ์ที่วางไว้ร่ามกันอย่างยุติธรรม
ถ้าคุณเป็นประชาธิปไตย คุณจะอดทนเพียงพอที่จะอยู่ร่วมกับคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณในบ้านเดียวกัน ในที่ทำงานเดียวกัน ในหมู่บ้านเดียวกัน ในจังหวัดเดียวกัน หรือในประเทศเดียวกัน เพราะคุณทราบว่าคุณเองก็ปรารถนาที่จะคงความคิดของคุณในขณะที่ยังอาศัยอยู่ในร่มชายคาเดียวกันเฉกเช่นกัน

ถ้าเมื่อไหร่คุณเริ่มสร้างมาตราฐานความดีงาม ที่บอกว่า สิ่งนี้ดีกว่าสิ่งนั้น ยกตัวเองให้สูงขึ้นและกดคนอื่นให้ต่ำลง คุณก็ได้เริ่มออกนอกแนวทางแห่งการเคารพในสิทธิของผู้อื่น และแน่นอนว่า เมื่อคุณเริ่มไม่เคารพในสิทธิของผู่้อื่น ความเข้าใจในสิทธิของตัวเองก็จะผิดเพื้ยนไปติดตามกัน

ไม่มีความคิดเห็น: