เมืองไทยไม่น่าเลย!: ถ้าผมเป็น อภิสิทธิ์ + เรื่องที่ผิดหวัง ตอนที่1

วันศุกร์, มีนาคม 03, 2549

ถ้าผมเป็น อภิสิทธิ์ + เรื่องที่ผิดหวัง ตอนที่1


เก็บอยู่ในใจพักนึงแล้วครับ พรรคที่จับมือร่วมกันบอยคอต 3 พรรค คือ ประชาธิปัตย์ ชาติไทย และมหาชน (หรือจะพูดอีกอย่าง ก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และ พรรคเคยเป็นประชาธิปัตย์)
ถึงแม้ว่า ผู้ที่เสนอจริงๆให้ บอยคอต คือ อภิสิทธิ์
แต่ทีผมผิดหวังจริงๆนั้น ไม่ใช่ อภิสิทธิ์
เพราะถ้าเป็นคนที่ติดตามการเมืองจริงๆ จะรู้ว่า อภิสิทธิ์ โดยเนื้อแท้แล้วเป็นอย่างไร

ถ้าวันนี้ เป็น บัญญัติ คิด ผมจะแปลกใจ ( แกไม่ค่อยริเริ่ม )
ถ้าเป็น ชวน คิด ผมจะอึ้ง ( ปกติแกไม่นอกกรอบ )
แต่เป็น อภิสิทธิ์ ผมเข้าใจ
รากเดิมของการคิด คือ ทำเพื่อชัยชนะ
อภิสิทธิ์ ไม่ใช่คนเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่แล้ว เขาเกิดมาแบบหวือหวา และ ก็โตแบบพรวดพราด ไม่ต้องให้มีแหล่งข่าวภายในก็รู้ว่า มีไม่น้อยในพรรคที่คิดว่า ข้ามหัว
ไม้นี้เป็นไม้ตายสุดท้ายของ อภิสิทธิ์ ที่พยายามรักษาความยิ่งใหญ๋ภายในพรรคเอาไว้
ลองนึกภาพแล้วกันครับ ว่า ถ้าครั้งหน้าประชาธิปัตย์แพ้ อะไรจะเกิดขึ้น
ชวนแพ้ ชวนลาออก
บัญญัติ แพ้ บัญญัติ ลาออก
แล้วถ้า อภิสิทธิ์ แพ้ล่ะ มีหรือจะไม่มีเสียงว่าควรทำอย่างไร ต่อให้ไม่มีเสียงก็ต้องออก
แล้วถามว่า มีอะไรบ้างที่คนอย่าง อภิสิทธิ์ น่าจะคิดในหัว
จะได้กลับมาหรือเปล่า แล้ว ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
คงไม่มีโอกาสที่สองแน่นอน เพราะท่ามกลางเสียงอึงๆของคนที่เรียกร้อง ชวน รีเทิร์น ก็มีไม่น้อย
แล้วถ้าหลุดจากนี้ไปอีกสัก 4 ปี มันคงเป็นปีของ หล่อเล็ก อภิรักษ์ เป็นแน่

ชวนลาออก ไม่เป็นไรครับ เพราะเส้นทางการเมืองที่ยาวนาน มันพิสูจน์ตัวเองอยู่พอสมควร ถือว่าจบด้วยการเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชมที่สุด
บัญญัติ ลาออก จะเป็นไรละครับ เพราะ ใครๆก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นหัวหน้าพรรคขัดตาทัพ มันไม่ได้ไม่เสียยิ่งในภาวะที่แข็งแกร่งสุดๆของทักษิณ ไม่มีใครตั้งความหวังกับบัญญัติหรอกครับ ว่าจะงัดทักษิณลง
แต่ อภิสิทธิ์ มันอีกเรื่อง
เส้นทางของ อภิสิทธิ์ ต้องบอกว่ามันหมดจดงดงามตลอดมา เป็นนักการเมืองที่ไม่เคยถูกชาวบ้านด่า นักวิชาการไม่แตะ แม่ยกเพียบ ไม่มีภาพของนักการเมืองโกงกินแม้แต่น้อย แม้ในขณะที่คนร่วมพรรคตกอยู่ในวิบากกรรม เส้นทางดั่งเทพประทาน ดูไปดูมาคล้ายคลึงรุ่นพี่ชวนที่สุด
แต่ เมื่อฟ้าส่ง อภิสิทธิ์ มาเกิด ใยต้องกำหนดให้มี ทักษิณ เล่า
พลันที่ทักษิณตั้งพรรคการเมือง อนาคตของ อภิสิทธิ์ ก็มีอันเปลี่ยนไป๋
ว่าที่นายกแน่ๆ ทำท่าว่าจะลางเลือน
แต่ อภิสิทธิ์ ก็ยังเป็น อภิสิทธิ์ ที่ไม่ได้หยุดพักความมุ่งมั่น เขายังเชื่อมั่นตัวเองดุจเดิม
ทันทีที่ ปี้ขวน ลง อภิสิทธิ์ ไม่ได้ใช้เวลามากเลยในการตัดสินใจลงชิงชัยกับ บัญญัติ
แม้ในห้วงเวลาที่พ่ายแพ้ บัญญัติ ก็ไม่ได้หยุดคิดสักนิดถึงความรวดเร็วเกินพอดีของตัวเอง
ถ้าผมเป็น อภิสิทธิ์ ผมจะทุ่มเททุกสรรพกำลังที่มีเพื่อหนุนให้ บัญญัติ แข็งแรงอยู่ในตำแหน่งให้ยาวนานที่สุด แม้พ่ายการเลือกตั้งครั้งแรก ผมจะเป็นคนแรกที่บอกว่า พี่ สู้ต่ออีกเถอะ ผมจะช่วยพี่เต็มที่เลย มันไม่ใช่ความผิดพี่ กระแสทักษิณมันแรงเกินไปต่างหาก เป็นผม หรือ ปี้ชวน วินาทีนี้ก็ต้องแพ้
แต่เปล่าเลยครับ ไม่ว่าคุณจะมองเห็นภาพ อภิสิทธิ์ เป็นแบบไหน แต่ภาพที่ปรากฎชัดก็คือ ณ ห้วงเวลาอันยากลำบากของ บัญญัติ ซึ่งอาจจะพอนับเป็นห้วงเป็นห้วงเวลา ที่ลำบากของ ประชาธิปัตย์ ดุจเดียวกัน
อภิสิทธิ์ ปล่อยให้ บัญญัติ "เวิร์ค" เพียงลำพัง ทำตัวเยี่ยง พยัคฆ์บนภูผา ดูหมาไนกัดกัน
แต่ลืมไป 3อย่างว่า ตัวเองไม่ใช่พยัคฆ์ บัญญัติไม่ใช่หมาไน ทักษิณยิ่งไม่ใช่ใหญ่ และสุดท้ายที่ที่ยืนอยู่ไม่ใช่ภูผา
ไม่ใช่ภูผา ครับ แต่เป็นบ้านของตัวเอง คือพรรคประชาธิปัตย์
การวางเฉยนั้น มันบอกชัดครับ ว่า ทำได้ก็ทำไป ไม่มีทางดีได้หรอก ถ้าข้าไม่ช่วย
มันเหมือนคนมาเผาบ้าน แล้วเราก็เกี่ยงกัน ว่าจะให้ใครสั่งการ จนท้ายที่สุดแล้ว บัญญัติ ได้สั่งการ อภิสิทธิ์ ก็ทำเหมือนว่า ถ้างั้นพวกบัญญัติ ก็ทำกันไปแล้วกัน ฉันจะคอยดู ถ้าจะยืมถังละก็พอมีให้นะมาหยิบเอาเองแล้วกัน
แต่ลืมไปน่ะครับ ว่าที่ไหม้อยู่มันบ้านเรา พอ บัญญัติ ส่งไม้ให้ อภิสิทธิ์ ด้วยความเก่งของ อภิสิทธิ์ ก็พอจะทำให้ไฟที่ไหม้แรงนั้นดับมอดลง แต่ที่เหลืออยู่คือ บ้านครึ่งหลัง ครับ จะให้เก่งยังไง ที่เหลือไว้ให้คือบ้านครึ่งหลัง การก่อร่างสร้างใหม่นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย และคนในบ้านเองก็ต้องหนาวสั่นกับกลางคืน และร้อนรุ่มเมื่อแดดแรง ไม่ว่าผลลัพธ์นั้นจะมีความหมายในใจ อภิสิทธิ์ อย่างไร คุ้มค่าหรือไม่ แต่นั่นเป็นผลจากวิถีของ อภิสิทธิ์
พรรคประชาธิปัตย์นั้น ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน อีกต่อไป มีช่องว่างรอยโหว่ระหว่าง คนใต้กับภาคกลาง แบบที่ต้องใช้เวลาประสานกันชนิดที่ยาวนาน
ยามใดที่ อภิสิทธิ์ ออกตัวไปข้างหน้า ใช่ว่าจะได้เสียงเต็มร้อยจากคนข้างหลัง
ถ้ายามนั้น อภิสิทธิ์ ฉวยโอกาสนั้นไว้ สร้างสภาพที่ บัญญัติ ขาด อภิสิทธิ์ ไม่ได้ หนุนหลังไว้ให้เต็มที่
สิ่งที่ อภิสิทธิ์ จะได้คือใจของคนทั้งพรรค บารมีก่อเกิด ชนิดที่ฉุดไม่อยู่
แถมรั้ง บัญญัติ ไว้เป็นกันชนกับ ทักษิณ
ยิ่งรุนหลัง บัญญัติ ให้เต็มที่ ฟัดกับทักษิณให้เต็มเหนี่ยว บั่นทอนกำลังให้เยอะๆ วันนี้จะเป็นวันที่บัญญัติ นั้นยับเยินแล้วจากการต่อสู้
และทักษิณก็จะเปลี้ยกว่าที่เป็นอยู่
วันนี้จะเป็นเวลาที่ อภิสิทธิ์ จะยืนหยัดได้อย่างสุดสง่า เพียบพร้อมด้วยราศีและบารมี เป็นตัวเลือกที่คนไทยปฏิเสธไม่ได้

แต่วิถึ อภิสิทธิ์ ไม่ได้อนุญาตให้ตัวเองทำอย่างนั้นครับ
กล่าวคือ ด้วยวิธีคิดแบบ อภิสิทธิ์ ไม่เปิดโอกาสให้กับคนอื่นและกับตัวเอง

ฉันใด ฉันนั้น วิถีแบบ อภิสิทธิ์ จึงใช้ออกอีกครั้ง ในรูปแบบของ การบอยคอต
ดุจเดียวกับ ที่ อภิสิทธิ์ ไม่สนใจความเป็นไปของพรรค ไม่คิดถึงส่วนรวมของพรรค
ครั้งนี้ อภิสิทธิ์ ก็ไม่สนใจความเป็นไปของชาติ และไม่มีหัวใจให้กับส่วนรวมที่ใหญ่กว่า อย่าง ประเทศของเรา
บอยคอตครั้งนี้ จึงเป็นการรั้งตัวเองไว้ให้อยู่ในตำแหน่ง และอำนาจสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้เท่านั้น
ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไม ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ถึงได้อยู่ไกลจาก อภิสิทธิ์ นัก
เพราะตำแหน่งนี้ ไม่เคยอนุญาต ให้คนที่คิดได้เท่านี้เอื้อมถึง

พรุ่งนี้จะมาว่ากันต่อ ว่าอะไรที่ผมผิดหวังนัก

ไม่มีความคิดเห็น: